LED กับเทคโนโลยีส่องสว่าง

          Light Emitting Diode เป็นเทคโนโลยีของการส่องสว่างแบบใหม่ ที่ทนทาน ให้ความสว่างสูง กินไฟน้อย เกิดความร้อนต่ำ ซึ่งระดับความสว่างก็ต่างกันตาม Chip LED ที่อยู่ภายในโคมไฟประเภทต่างๆ เช่น โคมไฟ LED Philips สอปร์ตไลท์LED โคมดาวน์ไลท์สี่เหลี่ยม โดยสามารถดูค่าความสว่างหรือปริมาณแสง (ลูเมน : lm) ที่จะบ่งบอกค่าความสว่าง เช่น สปอร์ตไลท์ 50wให้แสงสว่าง 400 ลูเมน เมื่อเทียบกับ LED  จะกินไฟเพียง 5 วัตต์เท่านั้น

          เพราะฉะนั้นเราจึงควรมีวิธีในการเลือกใช้หลอดไฟ LED โคมไฟติดเพดาน LED ดาวน์ไลท์ LED หรือหลอดไฟประหยัดพลังงานซึ่งก่อนการเลือกซื้อ ควรมีการศึกษาประเภทของหลอดไฟ แสง รูปแบบ ซึ่งเราสามารถดูรายละเอียดก่อนการเลือกซื้อได้ดังนี้

          สวิตช์หรี่ไฟ dimmable

การเลือกใช้สปอร์ตไลท์ LED 400w แต่ละพื้นที่ต้องดูว่าการใช้งานจำเป็นต้องการให้หรี่ไฟได้หรือไม่ เพราะสปอร์ตไลท์LED บางรุ่นหรี่ไฟได้สามารถหรี่ไฟได้ เช่น ไฟสปอร์ตไลท์ส่องป้าย แต่บางรุ่นหรี่ไฟไม่ได้ เช่น ไฟสปอร์ตไลท์สนามฟุตบอล สังเกตได้จากสัญลักษณ์ที่จะระบุไว้ข้างกล่อบรรจุผลิตภัณฑ์

            มุมกระจายของแสง

            การให้แสงของสปอร์ตไลท์ LED จะเป็นแบบแสงพุ่งตรงเหมือนแสงจากไฟฉาย ดังนั้นในการเลือกสปอร์ตไลท์ LED 200w จึงต้องดูเรื่องการกระจายแสง จากรีเฟลกเตอร์ของหลอดไฟแต่ละรุ่นประกอบด้วย

          สีของแสง

          แสงของหลอดไฟ จะมี 3 แบบ คือ

          สีวอร์มไวท์ (Warm white) ให้แสงสีแดงออกโทนส้ม เป็นโทนสีร้อน โทนอบอุ่น ค่าอุณหภูมิสีของแสงอยู่ที่ ต่ำกว่า 3,000 เคลวิน หรือเรียกอีกอย่างว่า แสงส้ม จะให้แสงสบายตาไม่สว่างมากจนเกินไป อบอุ่นเหมาะกับการพักผ่อน 

          สีเดย์ไลท์ (Day light) ให้แสงสีโทนออกขาวอมฟ้า คล้ายแสงธรรมชาติตอนกลางวัน ค่าอุณหภูมิสีของแสงอยู่ที่ 4,500-6,500 เคลวิน ขึ้นไป ให้ค่าสีที่สมจริง หรือเรียกอีกอย่างว่า แสงขาวให้แสงสว่างมาก เหมาะกับพื้นที่ใช้งานเช่นห้องทำงาน ห้องครัว ที่ต้องการแสงสว่างค่อนข้างมากในการทำงาน

          สีคูลไวท์ (Cool white) ให้แสงสีในทางสีขาว เป็นโทนสีดูเย็นสบายตา ค่อนข้างสว่างกว่าเมื่อเทียบกับสีวอร์มไวท์ Warm white ค่าอุณหภูมิสีของแสงอยู่ที่ 3,000-4,500 เคลวิน เป็นแสงที่ผสมระหว่างแสงขาวและแสงส้ม จะให้แสงที่ไม่สว่างและไม่มืดจนเกินไป

           เพื่อให้แน่ใจว่าการเปลี่ยนมาใช้สปอร์ตไลท์ LED  10w สปอร์ตไลท์ LED 100w  จะให้ความประหยัดจริง ต้องดูที่ค่าประหยัดไฟของหลอดไฟ ที่มีตั้งแต่ระดับ A++ คือประหยัดสูงสุด ไปจนถึง E ซึ่งจะลดระดับความประหยัดลงมา และแน่นอนว่าสปอร์ตไลท์ LED ราคาจะแตกต่างกันตามการประหยัดไฟมากน้อย